วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

บันทึกของ KSWAN

บันทึกของ KSWAN

DAY 1 วันที่ 4 / 7 / 52
เช้าวันเสาร์เตรียมกระเป๋าเรียบร้อยพร้อมเดินทาง เพื่อนมันดันโทรมาบอกว่าให้ไปรับรุ่นน้องที่แปดริ้วด้วย เราอยู่ที่บางปะกงก็ต้องนั่งรถย้อนกลับไปรับรุ่นน้องที่ขนส่งแปดริ้ว รุ่นน้องของเรามีแค่สองคนเท่านั้นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ไปถึงขนส่งแปดริ้วก็ เก้าโมงครึ่งพอดีรุ่นน้องมารอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็พารุ่นน้องไปซื้อตั๋ว รถ 57 กรุงเทพ - ระยอง เพราะค่ายที่เรากำลังจะไปอยู่ที่ บางพระ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดชลบุรี รถ 57 วิ่งยาวไปถึงบางพระได้เลยไม่ต้องต่อรถหลายต่อ แต่แผนนี้ก็ล้มไปเพราะรถ 57 ที่นั่งเต็มหมดแล้วถ้าจะขึ้นก็ต้องยืนไปตลอดทาง ก็เลยพารุ่นน้องมาขึ้นรถ 306 แปดริ้ว – ชลบุรี เจ้าเก่าคุ้นเคยดีเพราะขึ้นอยู่ประจำ ค่ารถถูกมากคนละ 25 (รถพัดลม) แต่ข้อเสียของรถ 306 คือ วิ่งช้ามาก หวานเย็นที่สุดประเภทถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง 45 นาทีถึงบางปะกงผ่านบ้านตัวเองไป 45 นาทีต่อมาก็ถึงชลบุรี ลงพารุ่นน้องลงรถตรงเฉลิมไทยแล้วก็พาขึ้นรถศรีราชา หรือรถกระป๋องไปลงที่บางพระ เพื่อนอีกสองคนที่อยู่ชลบุรีก็ตามมารวมกลุ่มครบห้าคน จากนั้นก็พากันขึ้นรถเก๋งของเพื่อนไปมหาลัยราชมงคล รถคันเดียวอัดเข้าไปได้ตั้ง 7 คน คนขับหนึ่ง แม่คนขับหนึ่ง คณะเดินทางอีก 5 ดีนะที่มหาลัยตอนนี้อยู่ใกล้นิดเดียว
พอถึงงานลงชื่อเรียบร้อยก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วว่า งานนี้คงไม่ได้มาแค่มาประชุมวิชาการตามชื่อค่ายที่บอกว่าโครงการประชุมสัมมนา และสรุปกิจกรรม อย่างเดียวแล้วหละ มันต้องมีอย่างอื่นแอบแฝงอยู่แน่ แล้วก็ใช้เลย พอเข้าห้องประชุมก็แบ่งกลุ่มแนะนำตัวเป็นงานแรก หลังจากนั้นก็แจกป้ายชื่ออันใหญ่มาก แล้วก็เริ่มเล่นเกมละลายพฤติกรรม เกมจับผิด แต่วันนี้โชคดีที่รอดมาได้ทุกตา พอเล่นเกมเสร็จก็แบ่งกลุ่มอีกคราวนี้เป็นสามกลุ่มใหญ่ ให้คิดท่าเต้นเพลงมอเตอร์ไซค์ สามชนิดมี ฟีโน เวสป้า สามล้อ กลุ่มเราได้เวสป้า สนุกดีเหมือนกันตอนเต้นฮามากๆ หกโมงครึ่งพักกินข้าวเย็นกับข้าวมื้อนี้เป็นไก่+ไข่พะโล้ รสชาติใช้ได้ ตอนหนึ่งทุ่มก็เข้าห้องประชุมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อมือ แม่หมอดูลายมือที่มือขวาของเราแล้วบอกว่า มือขวาจะเป็นมือที่หาเงินเก่งแต่เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ หักล้างกันพอดี เสร็จแล้วก็พักกินอาหารว่าง แล้วก็เดินไปหอพักไกลมาก 500 เมตรได้มั้ง กระเป๋าก็โคตรหนักเลยเอาหนังสือมาด้วยสองเล่มกะว่าจะเอามาทำการบ้านด้วย แต่ขี้เกียจแล้วพรุ่งนี้ค่อยทำดีกว่า ห้าทุ่มแล้วนอนดีกว่า พรุ่งนี้หกโมงเช้า ต้องเดินขึ้นเขา

มอเตอร์ไซค์เวสป้า แบกผ้าไปขายสำเพ็ง ขายกันถึงหกโมงเย็น
ขายกันถึงหกโมงเย็น แบกผ้าไปขายสำเพ็ง มอเตอร์ไซค์เวสป้า




DAY 2 วันที่ 5 / 7 / 52
วันนี้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตี 4 อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็นอนเล่นรอเวลาเรียกรวม ห้องพักของเราอยู่ชั้น 3 ห้อง C322 ทางเจ้าภาพเขายกหอพักให้หนึ่งหอ ผู้ชายนอนชั้น 3 ผู้หญิงนอนชั้น 4 นอนได้ห้องละสี่คน แต่เมื่อคืนก็มีบางคนไม่ได้นอนห้องของตัวเอง บางคนก็ไปนอนกับเพื่อนห้องอื่น มีบางคนไปนอนห้องผู้หญิง ไม่ต้องคิดมาก พวกนั้นเค้าไปตั้งวงเล่นไพ่จนสว่างหมดตูดกันไปหลายราย ตีห้าครึ่งก็ลงไปรวมกลุ่มหน้าหอวันนี้เจ้าภาพเขาจะพาขึ้นเขาสุวรรณหงส์ภูเขาหลังหอพัก ตอนแรกนึกว่าภูเขาในเมืองคงไม่ค่อยกันดารมากก็เลยใส่รองเท้าแตะ ADDA ไป แต่พอเดินขึ้นไปสุดยอดโคตรกันดาร ทางขึ้นเล็กพอเดินได้แค่คนเดียว พื้นก็เป็นหินแหลม ชัน ลื้นมาก ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าหกล้มคงกลิ้งตกเขาตายแน่ หกโมงเช้าก็ขึ้นมาถึงยอดเขาวิวสวยดีด้านหน้ามองเห็นทะเล เกาะศรีชัง เกาะลอย ด้านหลังเป็นอ่างเก็บน้ำบางพระ ดูจนพอใจแล้วก็เดินลงเขาลืมบอกไปว่าเดินขึ้นมาเป็นคนที่สี่ เป็นกลุ่มแรกที่มาถึงยอดเขา เหนื่อยลิ้นห้อยเลยสงสัยเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ดีนะที่มีน้ำให้กิน ขาลงเขายิ่งร้ายกว่าอีก ก็บอกแล้วว่าทางมันชันมากถึงลงได้เร็วก็จริง แต่ต้องระวังให้ดีไม่อย่างนั้นเจ็บตัวแน่ เพื่อนที่ลงก่อนอยู่ข้างหน้าแต่ลงได้ช้ามากเพราะน้ำหนัก 80 กิโล กว่าๆ แถมไม่ค่อยกล้าลง เราเลยต้องกระโดดอ้อมไต่ข้างทางแซงเธอลงไปก่อน ถึงตีนเขาก็ประมาณหกโมงครึ่ง กลับขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ แล้วพากันเดินเข้ามหาลัยไปกินมื้อเช้า กับของวันนี้เป็นข้าวต้มรวมมิตรรสชาติก็ยังใช้ได้ จากนั้นก็เข้าห้องประชุมวันนี้มีพระมาเทศน์เรื่องธรรมกับสิ่งแวดล้อมให้ฟังพระท่านเทศน์เก่งมาก แต่หลายคนที่ฟังกำลังนั่งหลับ ส่วนเราก็กำลังแย่เหมือนกันเพราะอาการภูมิแพ้กำเริบนั่งน้ำมูกไหลตลอดเลย มีอยู่ตอนหนึ่งพระท่านถามเราว่า “ขวัญจ๋า”(พระเรียกชื่อเรา) แล้วถามว่ารู้มั้ยว่าสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถเห็นได้คือสิ่งแวดล้อมของอะไร เราก็นึกอยู่ในใจว่า ต้องเป็น นรกกับสวรรค์แน่ ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ถูกต้อง พอพระท่านเทศน์เสร็จก็คราวที่วิทยากรมาบรรยายเรื่องวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ฟังแล้วก็เหมือนกับเรื่องที่เรียนมา
พอวิทยากรพูดจบทีนี้สนุกเพราะทุกมหาลัยต้องนำเสนอกิจกรรมสิ่งแวดล้อมที่ไปทำมา ของมหาลัยอื่นเราไม่รู้ แต่ของราชภัฏราชนครินทร์ยังไม่ได้ทำ power point เลยดีนะที่มหาลัยได้นำเสนอตอนท้ายๆยังพอมีเวลา แล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยงกินข้าวกลางวันมื้อก็เป็นแกงไก่ คราวนี้กินกาแฟไปหนึ่งแก้วเพื่อลดอาการภูมิแพ้แต่ก็ไม่ได้ผลเลยต้องไปขอยาแก้แพ้อากาศมากิน ยากับกาแฟออกฤทธิ์ต้านกันใหญ่เลยยาทำให้ง่วงกาแฟกระตุ้นให้ตื่น ใจในก็กลัวว่าแล้วมหาลัยของเราใครจะเป็นคนออกไปนำเสนอวะ power point ก็ทำเสร็จแล้วตอนพักเที่ยง มหาลัยอื่นเค้าก็นำเสนอผลงานกันน่าดู เสนอกันจนถึงเวลาอาหารเย็นแต่กับข้าวคราวนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้กินไม่เป็นก็เลยไม่กิน กินกาแฟแทน สองทุ่งครึ่งก็ถึงตามหาลัยของเรา สุดท้ายทุกคนก็ต้องออกไปพูดด้วยกันหมด เราในฐานะประธาน “ชมรมเส้นใบและสายธาร” โยนให้เลขาพูดหมดเลย “แมนมากเลย” สามทุ่มทุกมหาลัยก็นำเสนอเสร็จ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่โชคดี ไม่ต้องออกไปเต้นแร้งเต้นกา มันจะโชคดีแบบนี้ทุกวันรึเปล่านะ
ตอนกลับหอพักมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของว่าง บวกกับแฮมเบอร์เกอร์ที่ฝากเพื่อนซื้อให้อิ่มเลย พรุ่งนี้ต้องไปปลูกป่าชายเลนที่แหลมฉบัง (มีข่าวลือว่าพรุ่งตอนเย็นจะมีการให้นักศึกษาแสดงละคร!!!) เที่ยงคืนแล้วจบแค่นี้แล้วกัน




DAY 3 วันที่ 6 / 4 / 52
ตี 4 กว่าๆตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัว มือก็ชาไปหมด ขาทั้งสองข้างปวดมาก แต่ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำจนได้ 7.30น เรียกรวม ตอนเดินลงไปหาเพื่อนที่รออยู่ข้างล่างก็แสนจะลำบาก ขา เอว หลัง มันไม่ช่วยกันทำงานเลย ทุกก้าวเดินจะเจ็บขามาก พอนั่งลงก็จะเจ็บหลังกับเอว สงสัยเมื่อวานบ้าพลังมากไปหน่อยเดินขึ้นเขา ไปถึงเป็นคนที่ 4 ชนิดว่าตามติดคนนำทางไปเลย ถึงยอดเขาเป็นกลุ่มแรก แล้วตอนลงยังโชว์ความบ้าลงเขาอย่างรวดเร็วอีก ผลกรรมมันจึงเป็นเช่นนี้
วันนี้มีกิจกรรมทั้งวันแต่เป็นกิจกรรมนอกสถานที่ เช้านี้เราจะกินข้าวเช้ากันบนรถ มื้อนี้เป็นข้าวเหนียวมีสองแบบให้เลือก อันแรกข้าวเหนียวหมู อันที่สองเป็นข้าวเหนียวไก่ เราเลือกข้าวเหนียวหมูเพราะมันดูน่ากินดี จากนั้นก็แยกย้ายกันขึ้นรถ มีบัสสองคันบัสคันแรกเป็นบัสแอร์ธรรมดา คันที่สองเป็นบัสสองชั้น ไม่ต้องถามเลยว่าเราจะขึ้นคันไหน มันก็ต้องบัสสองชั้นอยู่แล้วเพราะยังไม่เคยนั่งเลย คนขับรถเปิดโคโยตี้ให้ดู เป็นโคโยตี้ที่ดูแล้วน่าเกลียดมากไขมันเป็นก้อนๆแล้วยังมาเต้นให้ดูอีก เป้าหมายแรกของวันนี้คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระ กิจกรรมที่ไปทำ ก็มีชมธรรมชาติ ส่องกล้องดูนก ตอนนั่งฟังบรรยายปวดหลังมากสงสัยเพราะยาพารา 2 เม็ด ที่กินเข้าไปหมดฤทธิ์ แปลกนะยาของที่นี่กินเข้าไปแล้วจะอยู่ได้
15 – 30 นาที พอหมดฤทธิ์ยาอาการทั้งหลายก็กลับมาอีก ฟังบรรยายเสร็จก็แบ่งกลุ่มเดินเข้าป่าไปส่องกล้องดูนก ป่าที่นี่ยังสมบูรณ์มาก มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด วันนี้เจอนกหลายชนิดแต่ไม่มากชนิดละตัวสองตัว ขากลับไปจุดรวมพล ลุงคนนำทางแกบอกว่าถ้าทางเก่ามันจะเสียเวลามากไปทางลัดกันเถอะ แล้วลุงแกก็นำมาถึงทางลัดดูไม่น่าไว้ใจเลย ทางลัดที่ลุงแกว่าเป็นทางแยกเล็กๆพอเดินได้คนเดียวตัดเข้าไปในป่า ลุงคนนำทางแกบอกว่านี่แหละทางลัดแล้วลุงแกก็เดินนำเข้าไป เราก็เดินตามไปติดๆ ตอนแรกทางมันก็พอเดินได้ สักพักลุงแกก็หยุดเพราะทางข้างหน้ามันไม่มีทางไปต่อแล้ว มีแต่ต้นหญ้าขนต้นใหญ่ขึ้นเต็มไปหมดเลย ต้นหญ้าขนถ้าไปโดนมันจังๆละก็มันจะบาดเลือดออกแน่ ลุงคนนำทางแกพูดปลอบใจว่า สงสัยพวกเราจะออกนอกเส้นทางหลักไปแล้ว ก็คือเส้นทางที่เราเดินอยู่ชาวบ้านเค้าไม่ใช้กันแล้ว สุดท้ายลุงคนนำทางแกก็ใช้วิธีบุกเข้าไปเลย ลุงแกฟันหญ้าขนเปิดทางให้ เราก็เดินตามแกไปติดๆดีนะที่วันนี้ใส่กางเกงยีน ช่วยได้เยอะเลยแต่รองเท้าเป็นอีแตะADDA คู่ชีพเดินในป่าก็เลยลำบากนิดหน่อย น่าสงสารบางคนที่ใส่กางเกงขาสั้นคงจะลำบากไม่น้อยเพราะมันกันอะไรไม่ได้เลย ลุงคนนำทางแกบุกป่าตั้งนานถึงเจอทางทะลุออกตรงฝายทดน้ำสนุกมากเลยงานนี้ คนอื่นเค้ามารอที่จุดรวมพลเรียบร้อยแล้วกลุ่มของพวกเรามาเกือบสุดท้ายจบภารกิจที่บางพระ เป้าหมายต่อไปคือโรงเรียนวัดแหลมฉบัง
พอนั่งรถออกจากบางพระยังไปได้ไม่ถึงไหนเลยก็มีเสียงดังที่ท้ายรถ สักพักทั้งรถคันก็เริ่มร้อน ไฟไหม้เหรอ ไม่ใช่ สายพานแอร์ขาดไปแล้วต่างหาก เลยต้องใช้วิธีเปิดประตูรถวิ่งรับลม แถมคนขับไม่ชำนาญเส้นทางขับเลยแยกแหลมฉบังต้องถอยกลับมาใหม่อีก มาถึงโรงเรียนวัดแหลมฉบังก็ประมาณ 11 โมงกว่าชาวบ้านที่นี่เค้าก็มานั่งรออยู่แล้ว ลืมบอกไปว่ารถคันแรกยังมาไม่ถึงเพราะจอดเสียอยู่ตรงแยกแหลมฉบัง โรงเรียนวัดแหลมฉบังมีครูนักอนุรักษ์อยู่หนึ่งคนชื่อครูจ่า ระหว่างรอพวกที่ยังมาไม่ถึง ครูจ่าแกก็เล่าปัญหาสิ่งแวดล้อมแถวนี้ให้ฟัง ทั้งเรื่องการบุกรุกป่าชายเลนเพื่อทำบ่อเลี้ยงปลา ตอนนี้พวกที่มากับรถคันแรกก็มาถึงแล้ว กิจกรรมของครูจ่าก็เริ่มขึ้น กว่าจะถึงพักเที่ยงก็โดนเต้นโคโยตี้หมู่ไป 4-5รอบ มื้อเที่ยงวันนี้เป็นกับข้าวที่เราไม่รู้จักกินไม่เป็น ก็เลยแยกตัวออกมาซื้อชานมกับขนมปังกิน แล้วก็เลยเดินไถลออกไปที่ชายหาดตอนเดินออกไปเห็นคนขับรถกำลังซ่อมสายพานแอร์อยู่ คงเสร็จทันตอนกลับนะ วิวที่แหลมฉบังก็สวยดี มีอู่ซ่อมเรือขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆมองเห็นปัญหาที่เกิดกับชาวบ้านชัดเลย บ่ายโมงก็กลับมารวมกลุ่มเปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นเตรียมปลูกต้นโกงกาง แต่ก่อนจะปลูกโกงกางครูจ่าแกให้เล่นเกมและคนแพ้ก็ต้องเต้นโคโยตี้ เล่นแบบนี้บ่อยๆรับรองโคโยตี้ตกงานแน่ เวลาจะไปปลูกโกงกางต้องใส่รองเท้าแบบพิเศษเป็นรองเท้าผ้าหุ้มถึงหน้าแข้งกันโคน แต่ไม่กันน้ำเวลาใส่จะรู้ว่ามีน้ำซึมเข้ามาเต็มไปหมด ครูจ่าแกเตรียมไว้พอสำหรับทุกคน “ปลูกโกงกางคนละต้นสองต้นลงในโคนปลูกเสร็จก็ร้องเพลงวันเกิดให้มัน แล้วก็เก็บขยะกลับไป” เวลาเดินในโคนต้องไม่อยู่กับที่นานเกินไปเพราะขามันจะจมโคนลึกขึ้นเรื่อยๆถ้าจมลึกมากจะขึ้นไม่ได้ต้องให้คนอื่นช่วยดึง แต่ดูเหมือนพวกปูจะไม่ชอบงานนี้แน่เพราะพวกเราไปเหยียบย่ำที่อยู่ของพวกมัน ปูบางตัวชะตาขาดถูกเหยียบตายก็มี ปลูกโกงกางเสร็จก็ไปล้างขาซักรองเท้าส่งคืนครูจ๋า แล้วกลับรวมกลุ่มเล่นเกมร้องเพลงนิดหน่อย จากนั้นก็ขึ้นรถกลับมหาลัยแอร์ซ่อมเสร็จแล้ว คราวนี้คนขับไม่หลงทางแล้ววิ่งตรงเข้ามหาลัยเลย ฝนก็เริ่มตก รถบัสมาส่งที่หอพักฝนหนักมาก กลับถึงห้องก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วก็รอให้ฝนหยุดตก แต่ฝนก็ไม่ยอมหยุด หกโมงรถบัสก็กลับมารับพาไปส่งที่อาคารที่ใช้จัดงาน วันนี้มีการแสดง แต่ละกลุ่มต้องคิดการแสดงอะไรก็ได้หนึ่งชุด เราอยู่กลุ่มสีชมพู่ ซึ่งแสดงได้ปัญญาอ่อนมากถ้าเทียบกับสมองระดับปัญญาชน (รายละเอียดไม่ขอเล่า สงวนไว้ในฐานน่าอับอาย) แต่ก็เรียกเสียงฮาได้ดี แสดงครบหมดทุกกลุ่ม ก็ถึงการแสดงดนตรีจากทางเจ้าภาพถึงเที่ยงคืน ง่วงมากเลยกว่าจะได้กลับหอพัก พอเข้าห้องได้ก็ล้างมือล้างเท้าแล้วก็หลับเลย



DAY 4 วันที่ 7 / 7 / 52
วันนี้อาการหวัดดีขึ้นแล้วแต่ยังปวดขาอยู่ เมื่อคืนรู้สึกว่าจะมีหลายคนที่ไม่ได้นอน บางคนเล่นไพ่ทั้งคืน บางคนรวมกลุ่มไปแกล้งเพื่อนห้องอื่น สำหรับห้อง C322 ปิดประตูล็อกแล้วก็หลับเป็นตายไม่รู้เรื่องอะไรเลย ลืมบอกอีกแล้วเพื่อนสองคนจากม.เกษตรบางเขนที่นอนอยู่ด้วยกลับไปตั้งแต่วันที่สองแล้ว ก็เลยนอนกับรุ่นน้องแค่สองคน และตอนนี้รุ่นน้องมันก็เริ่มติดหวัดแล้วด้วย เช้านี้มีกิจกรรมไปทำบุญที่วัดสันติราษฏอยู่ใกล้ๆกับมหาลัย ทำบุญเสร็จก็ช่วยกันทำความสะอาดวัด วัดตั้งอยู่บนเขา ทรมานขามากเวลาขึ้นลง แต่ชาวบ้านแถวนี้แต่ละคนรวยๆทั้งนั้นขับแต่รถหรูๆมาทำบุญ พอทำความสะอาดเรียบร้อย ก็ขึ้นรถกลับมหาลัยตอนนี้มีกระเป๋าสัมภาระเพิ่มมาด้วยโคตรหนักเลย ตอนเอามันก็เรียบร้อยดี แต่ตอนขากลับกว่าจะยัดทุกอย่างกลับเข้าที่ได้แทบตาย กลับมาถึง มหาลัยอาหารก็พร้อมแล้วมื้อนี้เป็นกระเพาะปลา พอกินมื้อเช้าเรียบร้อยก็ต้องเข้าร่วมประประชุมเสนอปัญหาของชมรม ของแต่ละมหาลัย งานนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ ผิดเวลา ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา ช่วยไม่ได้เราเป็นประธานมือใหม่นี่นะ แถมถูกจับยัดมาด้วย ประชุมกันถึงสามโมงครึ่ง แต่ขอกลับก่อนไม่ได้อยู่ร่วมพิธีปิดเพราะเดี๋ยวรุ่นน้องไม่มีรถกลับบ้าน ตอนนี้มีเด็กลาดกระบังร่วมทางมาด้วยเพราะกลับไม่ถูก ก็เลยพามาด้วยกันขึ้นรถ 57 กลับขนส่งแปดริ้ว ส่วนเราแยกทางลงที่เฉลิมไทยไปต่อรถ 306 แต่ก็แวะเข้าเฉลิมไทยก่อน อดอยากมานานแล้ว เลี้ยวเข้าร้านขายแผ่นเกมบอกคนขายเอา GTA ภาค San ANDREAS ได้มาเรียบร้อย ก็กลับไปขึ้นรถ 306 กลับบ้าน การบ้านที่ว่าจะทำยังไม่ได้ทำเลยงานนี้เตรียมตัวสนุกได้เลย ห้าโมงครึ่งกลับถึงบ้าน จบภารกิจทั้งหมด
( ตอนหลังรุ่นน้องมันมาบอกว่า “พี่ๆผมลืมคืนกุญแจห้องวะ !!! )











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น